กิจกรรมวิชาการ.

      ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มช. เผยผลการวิจัย ยาทรูวาดา ที่ใช้ในกลุ่มตัวอย่างชายรักชายทั่วโลก ต้านเอดส์ได้ร้อยละ 42 ส่วนคู่รักต่างเพศที่มีผลเลือดต่างกันในแถบแอฟริกาป้องกันได้ร้อยละ 75 ด้าน อย.สหรัฐฯ ประกาศรับรองทำให้มีขายทั่วไปได้แต่ยังเข้มข้อบ่งชี้การใช้ยา ขณะที่ไทยใช้ในงานวิจัยและผู้ที่ติดเชื้อแล้วเท่านั้น ยังต้องรอศึกษาผลกระทบก่อน

สืบเนื่องจากการที่องค์การอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) ประกาศรับรองให้ใช้ยาทรูวาดา ของบริษัท ไกลีด ไซเอนซ์ ของสหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นยาป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีเอดส์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา หลังมีการทำวิจัยผลของยาตั้งแต่ปี 2553 จนพบว่าสามารถลดโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะที่ปรึกษาเอฟดีเอได้ชะลอการอนุมัติให้ใช้ยาตัวนี้แม้ว่าจะมีการผลักดันมานาน เนื่องจากเกรงว่าอาจทำให้คนละเลยการใช้ถุงยางอนามัย ทำให้ขณะนี้ในสหรัฐฯ สามารถใช้ยาทรูวาดาล่วงหน้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีเอดส์ได้ภายใต้ข้อบ่งชี้การใช้ยาที่เข้มงวด

เรื่องนี้ ศ.นพ.สุวัฒน์  จริยาเลิศศักดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทำงานวิจัยร่วมกับหลายประเทศ เปิดผลการวิจัยการให้ยาต้านไวรัสล่วงหน้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มตัวอย่างชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย ทั้งกลุ่มเกย์ และกลุ่มสาวประเภทสอง ใน 16 ประเทศทั่วโลก พบว่าสามารถป้องกันเชื้อได้ร้อยละ 42 ขณะที่การวิจัยเกี่ยวกับการให้ยาต้านไวรัสล่วงหน้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มคู่รักต่างเพศที่มีผลเลือดต่างกันในประเทศแถบแอฟริกา พบว่าสามารถป้องกันเชื้อได้กว่าร้อยละ 75 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการใช้ยาของกลุ่มตัวอย่าง เพราะหากมีการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอจะพบว่าสามารถป้องกันเชื้อได้ถึงร้อยละ 90 ด้วยผลการวิจัยข้างต้นจึงอาจทำให้ อย. ของสหรัฐฯ เห็นควรประกาศรับรองยาต้านไวรัสชนิดนี้

“อย่างไรก็ตามหากเราดูคำแถลงของ อย. สหรัฐฯ จะเห็นว่าเขาอนุมัติให้ใช้ยาในประชากรกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมกับย้ำว่าจะต้องตรวจหาเชื้อก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อเอชไอวีอยู่ในร่างกาย เพราะอาจทำให้ดื้อยาได้ และยังบอกอีกว่าหากจะใช้ยานี้ได้ต้องเข้าใจเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่องการไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ยาตัวนี้ไม่ได้มาแทนที่ถุงยางอนามัย จะต้องย้ำตรงนี้ เพราะยาทรูวาดาอาจสามารถต้านโรคเอดส์ได้ แต่ยังมีอีกหลายโรคที่มาพร้อมกับการมีเพศสัมพันธ์ ทั้ง หนองใน ซิฟิลิส และอีกหลายโรค ดังนั้นขณะนี้ถุงยางอนามัยจึงเป็นการป้องกันเอดส์ที่ดีที่สุด และกลุ่มเสี่ยงก็ต้องใช้ยาควบคู่กันไปด้วย” ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพระบุ

ขณะที่โอกาสที่ไทยจะมีการประกาศรับรองยาทรูวาดาเช่นเดียวกับสหรัฐฯ นั้น ศ.นพ.สุวัฒน์กล่าวว่า ปัจจุบันยาทรูวาดาใช้ในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีอยู่แล้วเหมือนกันทั่วโลก เช่นเดียวกับการใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับการให้ยาล่วงหน้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามยาชนิดนี้ไม่มีขายทั่วไป เพราะจะต้องได้รับการสั่งจากแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาโรคเอดส์เท่านั้น แต่ในอนาคตหากต้องการให้มีใช้อย่างแพร่หลายเหมือนในสหรัฐอเมริกานั้น ต้องอยู่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าหลังจากมีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้านแล้ว จะเห็นสมควรอย่างไร ดังนั้นผู้ที่เกรงว่าตนเองจะมีเชื้อเอชไอวีอยู่ หรืออยากป้องกัน ควรหยุดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และหมั่นตรวจหาเชื้อเอชไอวีอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง

…………………………………………………………………………………

ข่าวโดย  หน่วยประชาสัมพันธ์ และบริการวิชาการ

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Post 1490 Views