โครงการ “การป้องกันการใช้สารเสพติดและการติดเชื้อเอชไอวีในชนบทของประเทศไทย โดยกระบวนการขับเคลื่อนชุมชน” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “โครงการฮักชุมชน”
เครือข่ายวิจัย (รหัสโครงการ) :
RURAL MA (ฮักชุมชน)
หัวหน้าโครงการวิจัยฝ่ายต่างประเทศ :
David Celentano, ScD, MHS,
หัวหน้าโครงการวิจัยในประเทศ :
ผู้ช่วยศาตราจารย์ นายแพทย์ ดร.อภินันท์ อร่ามรัตน์
นักวิจัยร่วม :
คุณบังอร ศิริโรจน์
องค์กรความร่วมมือ :
- มหาวิทยาลัย Johns Hopkins
- สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผู้ให้ทุน :
-
National Institute on Drug Abuse
-
National Institutes of Health, USA
พื้นที่ในการศึกษา :
6 อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ เชียงดาว แม่แตง สันทราย สันกำแพง ดอยสะเก็ด และสารภี
ระยะเวลาในการศึกษา :
เริ่มเดือนมกราคม 2551สิ้นสุด เดือนธันวาคม 2555
ที่มาและความสำคัญ :
ในช่วงเวลามากกว่า 10 ปีที่ผ่านมามีการแพร่กระจายของยาเสพติดที่ไม่ได้ใช้โดยวิธีการฉีด โดยเฉพาะยาบ้าที่เริ่มระบาดมาตั้งแต่ปี 2538 ร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ก็มีอยู่มีอยู่มากมายทั่วไปในกลุ่ม วัยรุ่นและผู้ใหญ่ ผลการศึกษาวิจัยที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปชี้ให้เห็นว่าการใช้ยาบ้าร่วมกับการดื่ม เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทำให้พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสูงขึ้นในกลุ่มเยาวชนที่ ใช้ยาบ้า นอกจากนี้ยังมีรายงานอย่างกว้างขวางว่ามีการเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานและ พฤติกรรมทางเพศในกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาว การมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรสของคนไทยเป็นเรื่องปกติ การใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์มีน้อยและการรับรู้ความเสี่ยงต่อการติด เชื้อเอชไอวีต่ำ ความชุกของการใช้สารเสพติดยังไม่ได้รับการประเมินในแง่ของความสัมพันธ์กับ พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี/โรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ ยกเว้นรายงานการศึกษาความสัมพันธ์ลักษณะดังกล่าวกับยาบ้าที่เพิ่มขึ้น เรื่อยๆ ในสภาวะดังกล่าวข้างต้น สถานการณ์ที่เป็นอยู่ส่งเสริมสนับสนุนให้ทำการศึกษาวิจัยปัจจัยทางสังคมและ พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาได้ตรงประเด็นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์การศึกษา :
ต้องการลดการใช้สารเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าและลดการติดเชื้โรคติดต่อทางเพศ สัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชน ในชนบทของประเทศไทย โดยกระบวนการขับเคลื่อนชุมชน ตามแนวคิดเชื่อมประสานเพื่อการปกป้อง( Connect to protect หรือ C2P) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ส่งผลทางตรงและทางอ้อมต่อการลด การใช้สารเสพติดและลดการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี
แบบแผนของการวิจัย/ การออกแบบวิธีวิจัย:
เป็นการวิจัยชุมชนแบบมีกลุ่มควบคุม ซึ่งแบ่งกลุ่มด้วยวิธีการสุ่ม ( Community-randomized control trial) จะทำการเลือกชุมชน 6 ชุมชนใน 6 อำเภอเป้าหมายเพื่อทำการสุ่มแบ่งกลุ่มเป็นชุมชนทดลองและชุมชนควบคุม 3 คู่ ปัจจัยที่ใช้พิจารณาในการจับคู่ชุมชนเพื่อทำการสุ่มแบ่งกลุ่มมีดังนี้
1. ระยะทางระหว่างชุมชนนั้นๆกับตัวเมืองเชียงใหม่
2. จำนวนประชากรอายุ 14-29 ปี
3. สภาพเศรฐกิจ
4. ความชุกของการใช้ยาเสพติดและเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์
5. ความชุกของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
6. ความชุกของการติดเชื้อเอชไอวี
7. อัตราการจับกุมคดียาเสพติดและคดีที่เกี่ยวข้องเช่น ความรุนแรง และการลักขโมยเป็นต้น
ชุมชนทดลองจะได้รับการสุ่มเลือกให้ได้รับการขับเคลื่อนชุมชน( Community mobilization) โดยใช้แนวคิดเชื่อมประสานความร่วมมือเพื่อการปกป้อง (Connect to protect: C2P) เจ้าหน้าที่ของโครงการวิจัยจะสร้างกลุ่มแกนนำ (Coalition)ซึ่งเป็นสมาชิกของชุมชนนั้นขึ้นมาเพื่อดำเนินงานด้านต่างๆ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่จะนำไปสู่การลดการใช้ยาบ้าและสารเสพ ติดอื่นๆและลดพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี การดำเนินงานของกลุ่มแกนนำจะมีคู่มือสำหรับช่วยในกระบวนการคิดเพื่อกำหนด วัตถุประสงค์ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สามารถวัดได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ของโครงการคอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุน
ชุมชนควบคุมจะได้รับโปรแกรมให้ข้อมูลเพื่อให้ชุมชนตื่นตัวรับรู้เรื่องเอ ชไอวี/โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันเอชไอวี/โรค ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งปรับปรุงมาจากโปรแกรมของสถาบันควบคุมโรคติดต่อประเทศสหรัฐอเมริกาและ ความรู้ด้านต่างๆที่ได้จากการศึกษาวิจัยกลุ่มเยาวชนที่ใช้ยาบ้าก่อนหน้านี้ โปรแกรมนี้จะรวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนทราบเกี่ยวกับบริการให้คำปรึกษา แนะนำและตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวี (Referral HIV counseling and testing) และสถานที่ที่จะไปรับบริการได้
ลักษณะตัวอย่างหรือประชากรที่ทำศึกษา:
ก. ประชากรเป้าหมาย กลุ่มตัวอย่างของโครงการวิจัยมี 2 ส่วนคือ
ก1. ชุมชน 6 ชุมชน(1 ชุมชนประกอบด้วย 8-10 หมู่บ้าน) จาก 6 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ได้แก่ เชียงดาว แม่แตง ดอยสะเก็ด สันทราย สารภีและสันกำแพง
ก2. เยาวชนและคนหนุ่มสาวชายหญิงทั่วไป อายุ 14-29 ปีที่อาศัยใน 6 ชุมชนจาก 6 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่
ข. การเลือกตัวอย่าง
ข1.เงื่อนไขการคัดเลือกชุมชน
• ตั้งอยู่บนเส้นทางถนนสายหลักจากอำเภอฝางถึงเมืองเชียงใหม่
• องค์กรชุมชนมีความกระตือรือร้นและประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่
• มีความยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการวิจัย
ข2. เงือนไขการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างเพื่อทำการสัมภาษณ์
• อายุระหว่าง 14-29 ปี
• มาจากชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ
• อาศัยอยู่ในชุมชนที่ศึกษาวิจัยมานานอย่างน้อย 4 เดือนและพักอยู่ที่พักอาศัยอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 2 คืนต่อสัปดาห์
ค. ขนาดตัวอย่าง
ค 1. ชุมชนจาก 6 อำเภอจำนวน 6 ชุมชน หนึ่งชุมชนประกอบไปด้วยประชากรประมาณ 10,000 คน
ค 2. เยาวชนและคนหนุ่มสาวชายหญิง อายุ 14-29 ปี จำนวน 2,000 คนจาก 6 ชุมชน
วิธีการวิจัย :
การศึกษาวิจัยเป็นการทดสอบที่มีการ แบ่งกลุ่มพื้นที่วิจัยระดับอำเภอด้วยวิธีการสุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มทดลอง 3 อำเภอประกอบด้วย สันกำแพง สันทรายและแม่แตง ดำเนินการตามแนวคิดเชื่อมประสานเพื่อการปกป้อง และกลุ่มควบคุม 3 อำเภอได้แก่เชียงดาว ดอยสะเก็ดและสารภีดำเนินการตามมาตรฐานที่ปฏิบัติตามปกติ แล้วทำการประเมินผลทั้ง 2 กลุ่มทุก 18 เดือน 2 ครั้ง
ประโยชน์ที่จะได้จากการวิจัย:
โครงการวิจัยมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาสุขภาพโดยรวมของเยาวชนในชุมชนที่ ศึกษาวิจัย โดยเข้าไปกระตุ้นส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือสมาชิกชุมชนและผู้เกี่ยวข้องให้ เข้ามาร่วมกันดำเนินงานด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงร้างที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาสุขภาพของ เยาวชน กระบวนการที่สร้างขึ้นจะทำให้เกิดความเข้มแข็งแก่กลุ่มแกนนำในชุมชนและชุมชน โดยรวมอย่างยั่งยืน และสามารถขยายการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหาด้านอื่นๆได้ด้วยตนเองในอนาคต นอกจากนี้ประสบการณ์จากงานวิจัยยังสามารถนำไปเผยแพร่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วม กับหน่วยงานและองค์กรอื่นที่มีความสนใจการพัฒนาชุมชนแบบยั่งยืนได้ด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม: